ฉีดไขมันใต้ตา
การฉีดไขมันใต้ตา เป็นวิธีที่ใช้สำหรับแก้ไขเบ้าตาลึกและลดรอยดำรอบดวงตา ช่วยทำให้ผิวใต้ตามีความสม่ำเสมอเรียบเนียน ทำให้ตาดูกระจ่างใส และใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย สำหรับใครที่สนใจอยากฉีดไขมันใต้ตาควรมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เนื่องจากการเติมไขมันใต้ตาเป็นบริเวณที่ละเอียดอ่อน มีความซับซ้อน ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง และเพื่อให้ได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสม
ทำไมถึงควรฉีดไขมันใต้ตา
การฉีดไขมันใต้ตา คือ การใช้เซลล์ไขมันเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในร่างกายตามธรรมชาติ โดยการดูดไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นลึก จากนั้นใช้เทคนิคการปั่นและกรองไขมันแบบพิเศษ ที่จะแยกเอาเฉพาะไขมันบริสุทธิ์ เพื่อนำกลับมาฉีดที่บริเวณใต้ตา เป็นการแก้ไขปัญหาใต้ตาลึก ตาโบ๋ และใต้ตาคล้ำได้ดี
ซึ่งไขมันที่ถูกฉีดเข้าไปจะทำหน้าที่ช่วยพยุงผิวที่เป็นร่องลึกจากการที่กระดูกหรือกล้ามเนื้อยุบตัว เพิ่มความหนาของชั้นใต้ผิวหนัง รวมทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณไขมันใต้ตา ทำให้ใต้ตามีความกระจ่างใส ใต้ตาอิ่มฟู ดูอ่อนกว่าวัย ให้ผลลัพธ์ถาวรที่เป็นธรรมชาติ แถมยังมียังมีความปลอดภัยสูง มีโอกาสการแพ้ที่ต่ำ เนื่องจากเป็นสารเติมเต็มที่มาจากร่างกายเราเอง
แนะนำอ่านเพิ่มเติม
การฉีดไขมันใต้ตาช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ช่วยเพิ่มปริมาณไขมันใต้ตา ทำให้ตาโหล เบ้าตาลึก ที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา หรือกล้ามเนื้อตื้นขึ้น
- ช่วยกระชับผิวหนังใต้ตา ให้เรียบเนียน แก้ปัญหาถุงใต้ตา ลดริ้วรอยใต้ให้จางลง และลดรอยตีนกา
- ช่วยคืนความกระจ่างใสให้กับใต้ตา ลดรอยคล้ำจากโรคภูมิแพ้ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
- ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ใต้ตาที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
- ช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง เช่นอาการอักเสบ การติดเชื้อ
การฉีดไขมันใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง?

การฉีดไขมันใต้ตาถือเป็นการเติมเต็ม เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆบริเวณใต้ตาได้อย่างคอบคลุม และมีความปลอดภัยสูง ดังนั้นจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาดังต่อไปนี้
- เหมาะกับคนที่มีร่องใต้ตาลึก ที่เกิดจากการบางลงของชั้นไขมัน
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาใต้โหล ใต้ตาลึกและตาโบ๋ ดวงตาไม่สดใส
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาใต้ตาดำคล้ำ การฉีดไขมันใต้ตาช่วยลดปัญหาขอบตาดำที่อาจเกิดจากอาการภูมิแพ้ และสาเหตุอื่นๆ
- เหมาะกับคนที่ไม่อยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะกังวลว่าอาจเกิดอาการแพ้ หรือมีผลข้างเคียง
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวใต้ตาเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อย หรือมีถุงใต้ตา
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน และแก้ไขจุดบกพร่องบริเวณใต้ตาไปพร้อมๆกัน
การฉีดไขมันใต้ตาVSการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไร

การฉีดไขมันใต้ตาและการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถือเป็นตัวช่วยที่มีคุณสมบัติในการเติมเต็มที่ให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น แก้ปัญหาตาโหล ใต้ตาลึก ริ้วรอยใต้ตา และใต้ตาคล้ำ ซึ่งจะมีรายละเอียดและการให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันดังนี้
การฉีดไขมันใต้ตา
การฉีดไขมันใต้ตา เป็นการแก้ไขปัญหาริ้วรอยด้วยไขมันตัวเอง โดยหมอจะใช้เครื่องดูดไขมันดูดไขมันส่วนเกิน ในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่มากออกมา เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นขา และสะโพก ก่อนนำไปปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมาใช้ แล้วผสมกับเนื้อเยื่อไขมัน จากนั้นนำไขมันที่ได้ไปฉีดเติมเต็มบริเวณใต้ตา ซึ่งการฉีดไขมันใต้ตาจะมีปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานเพราะหลังจากที่ไขมันติดดีแล้วก็จะสามารถอยู่ได้ถาวร อีกทั้งการฉีดไขมันยังสามารถทำได้โดยไม่ต้องจำกัด CC จึงมีความคุ้มค่าในการรักษา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการใช้สาร Hyaluronic Acid หรือ (HA) เข้าบริเวณใต้ตาที่มีปัญหากระดูกยุบตัว ทำให้ตาโหล ใต้ตาลึก และมีปัญหาใต้ตาคล้ำ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ซึ่งการใช้เป็นฟิลเลอร์แท้จะมีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติสามารถสลายได้ 100% โดยไม่ตกค้าง (แต่คนไข้บางรายอาจมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ได้) และผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ถาวร อีกทั้งยังมีราคาสูงกว่าเพราะการฉีดฟิลเลอร์จะมีการคิดราคาเป็น CC
ข้อดีและข้อเสียของการฉีดไขมันใต้ตา
การทำศัลยกรรมทุกประเภทมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งการฉีดไขมันใต้ตา ก็เป็นการทำศัลยกรรมอีกหนึ่งประเภทที่ควรศึกษาข้อดีและข้อเสียอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
ข้อดีของการฉีดไขมันใต้ตา
- การฉีดไขมันใต้ตา เป็นการใช้ไขมันที่มาจากตัวคนไข้เอง ซึ่งไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมร่างกายจึงไม่ต่อต้าน ทำให้เสี่ยงต่ออาการแพ้น้อยมาก
- นอกจากการฉีดไขมันใต้ตาแล้ว ยังสามารถฉีดไขมันทั่วหน้า(ฉีดไขมันหน้าเด็ก) เพื่อปรับรูปหน้าให้เด็กลงได้อีกด้วย
- การฉีดไขมันใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาที่เกิดขึ้นตามวัย และช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ตื้นขึ้น
- หลังฉีดไขมันใต้ตา จะไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น
- ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดไขมันใต้ตา หลังจากที่ผ่านไป 3 เดือน จะมีอยู่ได้ถาวร
- ไขมันที่ฉีดเข้าไปเป็นเซลล์ที่มีชีวิต จึงสามารถช่วยซ่อมแซมผิวใต้ตาให้มีสุขภาพดี ใต้ตามีความสดใส
- การฉีดไขมันใต้ตา เป็นการผ่าตัดที่มีมาตรฐาน ผ่านกระบวนการที่ปลอดเชื้อ และทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีความเป็นธรรมชาติ
- ฉีดไขมันใต้ตาไม่มีการจำกัดซีซี เพราะจะใช้ปริมาณไขมันตามดุลยพินิจของแพทย์
ข้อเสียฉีดไขมันใต้ตา
- กระบวนการที่ซับซ้อน เพราะต้องผ่านกระบวนการดูดไขมันออกมา ต้องปั่นแยกไขมัน และต้องตรวจเช็กไขมันก่อนนำมาใช้ฉีดไขมันใต้ตา
- ต้องเปิดแผลหลายตำแหน่ง ทั้งตำแหน่งที่มีการดูดไขมัน และตำแหน่งที่ฉีดไขมัน ทำให้ให้คนไข้เจ็บตัวซ้ำซ้อน
- หลังการฉีดในช่วงแรกไขมันอาจมีการสลายไปได้เพราะโดยธรรมชาติของร่างกาย ไขมันเป็นสารที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งาน จึงต้องรอ 3-6 เดือน เพื่อรอให้ไขมันเข้าที่
- อาจมีอาการบวมช้ำในบริเวณที่ทำการดูดไขมัน และบริเวณที่ฉีดไขมันใต้ตา
การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันใต้ตา
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดไขมันใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวคนไข้ อีกทั้งการเตรียมตัวที่ถูกต้องยังส่งผลต่อผลลัพธ์หลังการฉีดไขมันใต้ตา ดังนั้นหมอจึงขอแนะนำให้คนไข้ปฏิบัติตัวเพื่อเตรียมความพร้อมดังนี้
- แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการทำหัตถการต่างๆ ให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีประวัติการฉีดสารเติมเต็มหรือผ่าตัดทำศัลยกรรมใต้ตา
- หากคุณมีโรคประจำตัว มียาที่ต้องทานเป็นประจำ หรือมีประวัติการแพ้ยา ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน เนื่องจากอาจมีผลต่อการฉีดไขมันใต้ตา
- งดทานยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่นยาในกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และวิตามิน A E C ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา โสม หรือสมุนไพรอื่น ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะมีผลกระทบต่อคุณภาพไขมัน และระบบการหายใจในระหว่างผ่าตัด
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้เซลล์ในร่างกายได้มีการฟื้นตัวอย่างเต็มที่
- งดการแต่หน้า และงดการทาครีมบำรุงผิว เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระหว่างการฉีดไขมัน
- แนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่สะดวกและสามารถถอดได้ง่ายมาในวันฉีดไขมันใต้ตา
ขั้นตอนการฉีดไขมันใต้ตา
การฉีดไขมันใต้ตา ในแต่ละคลินิกอาจจะมีเทคนิคที่แตกต่าง ตามความเชี่ยวชาญของแพทย์แต่ละท่านซึ่งที่ Diora Clinic จะมีขั้นตอนการฉีดไขมันใต้ตาที่ได้มาตรฐานดังนี้
- แพทย์จะทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน
- แพทย์จะใช้เครื่องดูดไขมันแบบ Body-jet เพื่อแยกเซลล์ไขมัน เพื่อไม่ให้เซลล์ไขมันถูกทำลาย
- นำไขมันที่ได้ไปคัดแยกเซลล์ไขมัน เพื่อเลือกเอาเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพสูง จากนั้นผสม PRP ลงไปเพื่อให้เซลล์ไขมันติดดีมากยิ่งขึ้น
- ทายาฆ่าเชื้อและฉีดยาชาในบริเวณที่ต้องการฉีดไขมัน จากนั้นนำไขมันที่เตรียมไว้มาฉีดที่บริเวณใต้ตา โดยใช้เทคนิคการเติมไขมันใต้ตาโดยการวางเซลล์ไขมันทีละจุดอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ใต้ตาดูเป็นธรรมชาติ มีความเรียบเนียน
การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันใต้ตา
- นอนหัวสูงกว่าหน้าอกในช่วง 48 ชั่วโมงแรก โดยหนุนหมอนอย่างน้อย 2 ใบ
- ควรนอนหงายอย่างน้อย 1-2 เดือน หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงเพื่อป้องกันการกดทับหน้า
- ทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบ เพื่อป้องกันการอักเสบ ลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
- ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยให้ไขมันเข้าที่ได้ไวขึ้น
- งดการสัมผัส หรือการขยี้ตา เพื่อป้องกันการอักเสบ การติดเชื้อจากมือสัมผัส และป้องกันไม่ให้ไขมันสลายได้เร็ว
- ควรอยู่ให้ห่างกับความร้อนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการอบซาวน่า การออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 1-3 เดือน เพื่อป้องกันการสลายของไขมัน
- งดการสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือน (ทั้งนี้ยังรวมไปถึงอาหารแสลงต่างๆ) เพื่อป้องกันการอักเสบ
- งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่แผล
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการเติมไขมันใต้ตา
การฉีดไขมันใต้ตาไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย อีกทั้งผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นยังค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นการใช้ไขมันที่มาจากร่างกายของตัวเอง จึงไม่เสี่ยงต่อการแพ้ ซึ่งหลังการฉีดไขมันคนไข้อาจมีอาการปวด บวม ช้ำในบริเวณที่ดูดไขมัน และบริเวณที่ฉีดไขมัน ซึ่งจะสามารถหายได้เองใน 7-14 วัน (แนะนำให้ทานยาที่แพทย์สั่งจนครบ)
ฉีดไขมันใต้ตาที่ไหนดี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ?

- หาข้อมูลของคลินิกอย่างละเอียด เพื่อเปรียบเทียบความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ของแพทย์
- ตรวจสอบประวัติและความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่คุณสนใจ ว่ามีใบอนุญาตและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินงานทางด้านความงาม โดยนำชื่อ-นามสกุลของแพทย์ไปตรวจสอบกับแพทยสภา
- เลือกคลินิกที่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา มีการแจ้งราคาชัดเจน ไม่มีการบวกเพิ่มภายหลัง
- มีคุณหมอให้คำปรึกษา ประเมินความเหมาะสม และวางแผนการฉีดไขมันใต้ตาให้กับคนไข้แบบเคสต่อเคส
สรุป
การฉีดไขมันใต้ตาถือเป็นจุดที่ต้องการความละเอียดและมีความซับซ้อนมาก เนื่องจากผิวหนังบริเวณใต้ตาเป็นผิวหนังที่บาง หากแพทย์ขาดความเชี่ยวชาญ หรือฉีดด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องก็อาจส่งผลทำให้เกิดถึงใต้ตา หรือใต้ตาเป็นคลื่นได้ แต่ที่ Diora Clinic หมอจะใช้เทคนิคการฉีดไขมันแบบ Nano Fat Grafting ซึ่งตัวไขมันมีความละเอียดสูง ฉีดด้วยเทคนิคการจัดเรียงไขมันใต้ผิวหนังอย่างระมัดระวัง ด้วยประสบการณ์ที่มากกว่า 10 ปี จึงทำให้ใต้ตาเรียบเนียนเป็นธรรมชาติและติดทนนานกว่า