การจะตอบคำถามนี้ได้ต้องย้อนกลับไปที่จุดกำเนิดของการฉีดไขมันหน้าซึ่งแรกเริ่มเดิมทีแพทย์จะใช้เข็มขนาดใหญ่ในการดูดและฉีดไขมัน ทำให้ได้ปริมาณเนื้อไขมันที่ค่อนข้างมากและมีขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่าแบบ Macrofat graft เติมเต็มส่วนของร่างกายให้กับคนไข้ที่ไม่ต้องการเสริมด้วยซิลิโคนหรือสิ่งแปลกปลอมสารสังเคราะห์อื่นๆ
ต่อมา พบว่าสภาพผิวของคนไข้ดีขึ้นหลังฉีดไขมันประกอบกับงานวิจัยที่ค้นพบว่าไขมันที่ดูดออกมามีสเต็มเซลล์ MSC (mesenchymal stem cell) ที่คล้ายกับในไขสันหลังอยู่จริง จึงมีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการฉีดไขมันหน้าแบบต่างๆ ออกมามากขึ้นๆ
การฉีดไขมันหน้าจึงเริ่มมีความละเอียดมากขึ้นระดับไมโคร ( Microfat graft ) ที่เนื้อไขมันมีความละเอียดละมุนมากขึ้นและยังพอมีความคงทนของรูปร่างสำหรับใช้เติมเต็มร่วมกับฟื้นฟูปรับสภาพผิวได้ดี
จนกระทั่งมีงานวิจัยที่นำไขมันมาผ่านกระบวนการกรองและทำให้เนื้อไขมันผสมกลมกลืนกันได้ไขมันเนื้อละเอียดมากๆ จนเกือบเหลว เรียกว่า ไขมันนาโนแฟต (Nanofat graft) นั่นเอง
ฉีดไขมันหน้าแบบนาโนแฟต (Nanofat) ดีไหม ต่างจากการการเติมไขมันแบบอื่นอย่างไร ??
ไขมันนาโนแฟต (Nanofat graft) เป็นเทคนิกที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเน้นฟื้นฟูปรับสภาพผิวชั้นตื้นให้เรียบเนียนมากขึ้นโดยเฉพาะในส่วนที่ชั้นผิวบางละเอียดอ่อนไม่เหมาะกับการเติมไขมันขนาดใหญ่เนื่องจากอาจมองเห็นเป็นก้อนหรือห้อยคล้อยได้ เช่น บริเวณรอยย่นรอบปาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอบดวงตา เป็นต้น
ดังนั้น การเติมเต็มในพื้นที่ที่ต้องการความอิ่มฉ่ำมีวอลุ่ม (Volume) จึงไม่เหมาะกับเทคนิกนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการฉีดไขมันหน้าแบบ Macrofat , Microfat หรือ Nanofat graft ล้วนมีประโยชน์ เพียงแต่จะใช้แบบไหนกับสภาพพื้นผิวส่วนไหนของคนไข้ ขึ้นอยู่กับการตรวจวิเคราะห์ประเมินโดยแพทย์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไข้
บริเวณที่เหมาะกับการเติมไขมัน Nanofat คือบริเวณที่แคบและบอบบาง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม รอยย่นรอบปาก
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/31280846/
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/34909120/
