• Home
  • >>
  • บทความ
  • >>
  • hematoma ภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง คืออะไร?

hematoma ภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง คืออะไร?

Hematoma ภาวะเลือดคั่งคืออะไร??เกิดขึ้นได้อย่างไร??

   

อาการห้อเลือดหรือ Hematoma คือการคั่งรวมกันของเลือดบริเวณภายนอกหลอดเลือด ซึ่งในชีวิตประจำวันเราพบได้บ่อยเวลาที่เกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกแล้วหน้าผากโนบวมแดงปูดเป็นก้อนหรือฟกช้ำดำเขียวตามเนื้อตามตัว 

  ถ้าอิงตามศัพท์แพทย์ Hematoma จะมีหลายชนิดแบ่งตามตำแหน่งของมัน เช่น Subcutaneous (ใต้ผิวหนัง) Hematoma , subdural (ใต้เยื่อหุ้มสมอง), spinal (กระดูกสันหลัง) และ hepatic (ตับ) เป็นต้น 

  โดยในบทความนี้จะขอเน้นเฉพาะภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง หรือ Subcutaneous  Hematoma ซึ่งพบได้บ่อยหลังจากอุบัติเหตุและการทำศัลยกรรม เช่น เสริมจมูก ทำตา 2 ชั้น ผ่าตัดดึงหน้า รวมทั้งการฉีดไขมันหน้า ต่างก็เป็นหัตถการที่ล้วนมีโอกาสเกิดเลือดคั่งใต้ผิวหนังได้ทั้งสิ้น

คนไข้ที่มีภาวะดังต่อไปนี้ยิ่งมีโอกาสเกิดภาวะเลือดคั่งได้มาก

  • เกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia)
  • การอุดตันของลิ่มเลือดที่ขา (DVT)
  • เส้นเลือดโป่งพองผิดปกติ (Aneurysm)
  • มะเร็งในเลือด
  • ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

  hematoma อาจมีขนาดเป็นแค่จุดเล็กๆ หรือเลือดคั่งมากจนมีขนาดใหญ่บวมเป่งก็ได้
.
 สีมีหลากหลายตามระยะของอาการ ตั้งแต่ แดง ม่วงคล้ำ เหลืองเขียว

ภาวะเลือดคั่งจะหายไปเมื่อใด ???

  • หลังจากมีอาการ 2-3 วัน จากเลือดคั่งสีแดงจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ
  • หลังจากมีอาการ 5-10 วัน สีจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียวจากการสลายของฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ในเม็ดเลือดแดง
  • หลังจากมีอาการ 10-14 วัน เศษซากของเม็ดเลือดจากถูกเก็บกวาดโดยกระบวนการฟื้นฟูตนเองของร่างกาย

ดังนั้น โดยเฉลี่ยแล้ว Subcutaneous Hematoma จะหายไปในช่วงประมาณ 14 วัน แต่ในบางรายที่มีเลือดซึมกะปริบกะปรอยอยู่ภายในทำให้อาการคั่งนานกว่านี้ได้จนถึง 3 สัปดาห์หรือ 3 เดือนก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม เลือดที่ไหลออกมาอยู่ในบริเวณที่ไม่ควรอยู่นั้นจะทำให้เกิดการรบกวนและอักเสบปวดบวมของเนื้อเยื่อรอบๆ จนแผลหายช้าและเกิดอันตรายได้หากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี

การรักษาภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง 

ในช่วงแรกควรปฎิบัติตามหลัก RICE โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 วันแรก!! สำคัญมาก

1. Rest พักผ่อน ไม่ควรลุกเดินขึ้นๆลงๆไปไหนมาไหนเกินจำเป็น

2. Ice การประคบเย็นภายใน 48 ชั่วโมงแรกช่วยให้หลอดเลือดหดตัวเลือดออกน้อยลง มีการดูดซึมน้ำกลับเข้าหลอดเลือดจึงช่วยให้ยุบบวม

ประคบเย็นครั้งละ 20-30 นาที วันละ 2-3 ครั้ง ด้วยอุณหภูมิพอเหมาะไม่เย็นจัดเกินไปหรือนานเกินไปจนเนื้อเยื่อขาดเลือดไปเลี้ยง

3. Compress เช่นเดียวกับการประคบเย็น คือ กดลงน้ำหนักพอสมควร ไม่กดแรงนานเกินไปจนเนื้อเยื่อขาดเลือดไปเลี้ยง

4. Elevate ยกบริเวณที่มี เลือดคั่งให้สูงกว่าระดับหัวใจ

นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคนไข้หลังทำศัลยกรรมใหม่ๆ บริเวณใบหน้าควรประคบเย็นและนอนหัวสูง

ตามกลไกฟื้นตัวของร่างกายช่วงที่บวมที่สุด 3-4 วันแรกปากแผลยังปิดไม่สนิท อาจมีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลซึมขับออกมาทางปากแผลได้บ้างถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติให้ทำความสะอาดแผลต่อเนื่องทุกวัน 

แต่ในกรณีที่หลอดเลือดขนาดใหญ่ฉีกขาดมีเลือดไหลทะลักออกปริมาณมากจนผิดปกติหรือมีเลือดไหลซึมต่อเนื่องเกินกว่า 7 วันควรรีบแจ้งแพทย์ทันที

ช่วง 2-3 วันแรกที่มีอาการคั่งบวมมากที่สุด แพทย์อาจจะพิจารณาเจาะดูดระบายเลือดออกเพื่อลดอาการบวมคั่ง 

แต่จะพิจารณาเจาะระบายในบางรายที่บวมมากผิดปกติหรือบวมจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น

เนื่องจากรูแผลที่เจาะเข้าไปอาจเป็นช่องทางให้เชื้อแบคทีเรียลามเข้าไปได้

หากเจาะระบายออกแล้วพบเป็นน้ำสีเหลืองใสไม่ใช่เลือดจะเรียกว่า Seroma (น้ำเหลืองคั่ง) ซึ่งการเฝ้าระวังและดูแลรักษาไม่แตกต่างจากภาวะเลือดคั่ง

ในกรณีที่ Hematoma เกิดขึ้นมานานหลายวันเลือดเริ่มแข็งตัวแล้วไม่สามารถเจาะระบายได้ การประคบอุ่นก็เป็นการรักษาอีกทางเลือกที่ดี

โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมในการประคบอุ่นไม่ควรเกิน 45 องศาเซลเซียส ประคบครั้งละ 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง

บทสรุปและข้อควรระวังในภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง !!!

สรุปแล้วโดยธรรมชาติของ ภาวะเลือดคั่งในระยะสั้นๆ แล้วมักไม่มีพิษภัยอะไร และจะหายไปเองในระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์

บางรายที่มีภาวะร่างกายเขียวฟกช้ำได้ง่ายและนานกว่าคนอื่นอาจใช้เวลาฟื้นตัวช้าได้นานถึง 2-3 เดือน

แต่!! หากมีอาการนานกว่านั้นแล้วปล่อยไว้ไม่พบแพทย์เพื่อรักษา เลือดเก่าที่คั่งกองสุมอยู่เป็นเวลานานจะขัดขวางการไหลเวียนของเลือด

ทำให้ไม่มีเลือดไปเลี้ยงบริเวณนั้นได้อย่างเพียงพอและเสี่ยงต่อการสะสมของแบคทีเรียจนเกิดการติดเชื้อลุกลามตามมาได้

ดังนั้น ควรดูแลรักษาป้องกันไว้ให้ดีอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่อยากให้ฝันที่อยากสวยกลายเป็นฝันร้าย