• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
    • Privacy Policy
  • บริการ
    • รีวิว
    • ฉีดไขมันหน้า ( fat transfer )
    • PRP
    • PRP Premium
    • X-DNA
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
    • Privacy Policy
  • บริการ
    • รีวิว
    • ฉีดไขมันหน้า ( fat transfer )
    • PRP
    • PRP Premium
    • X-DNA
  • FAQ
  • ติดต่อเรา

การร้อยไหมคืออะไร

 

     การร้อยไหมเป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับผิวหน้าอย่างมาก  โดยใช้แก้ปัญหาผิวหนังบนใบหน้าหย่อนคล้อยในบริเวณต่างๆ เช่น แก้ม เหนียง คิ้ว กรอบหน้า โดยใช้ไหมละลายหลายเส้นร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนังและการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่รอบๆเส้นไหม หลังจากนั้น เนื้อเยื่อจะเกิดการกระชับตัวดึงรั้งและยกกระชับผิวหน้าขึ้นตามแนวการร้อยไหม ทั้งยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นเลือดมาเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวมากขึ้น

     ไหมที่นิยมใช้ในการร้อยไหมกันมากที่สุดคือไหมละลายชนิด PDO ซึ่งย่อมาจากโพลีไดอ็อกซาโนน (Polydioxanone) ซึ่งเป็นไหมชนิดที่ใช้สำหรับการเย็บแผลผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากมักไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรืออักเสบแถมยังได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  โดยไหมจะค่อย ๆ สลายตัวไปเองภายใน 4-8 เดือนหลังจากการร้อยไหมจึงไม่ต้องกังวลว่าเส้นไหมจะตกค้างอยู่ภายใต้ผิวหนัง

 

ไหมเกลียวคืออะไร

ไหมเกลียว screw คือไหมที่ถูกบิดขึ้นรูปเป็นเกลียวสปริง  ช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน  เพิ่มประสิทธิภาพยกกระชับผิวหน้าและเติมเต็มใบหน้าได้ด้วย

 

การร้อยไหมเหมาะกับใครบ้าง

 

     การยกกระชับผิวหน้าด้วยการร้อยไหมเหมาะกับผู้ที่มีอายุประมาณ 30-60 ปีขึ้นไป โดยเนื้อเยื่อผิวหน้าต้องไม่มีการยุบตัวหรือผิวหนังส่วนเกินจะต้องไม่หย่อนคล้อยมากเกินไป เพราะหากผิวหนังส่วนเกินหย่อนคล้อยมากเนื่องจากมีอายุหรือมีน้ำหนักตัวมากเกินไป อาจต้องใช้การรักษาวิธีอื่นร่วมด้วยจึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน หรืออาจใช้การร้อยไหมกับผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดยกหน้า (Facelift) ไปแต่ยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดครั้งต่อไป

 

      คนไข้ที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง ไวรัสตับอักเสบบีหรือซี โรคเอดส์ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงที่ควบคุมได้ไม่ดี เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหม ในรายที่เคยฉีดซิลิโคนเหลว แล้วจับตัวเป็นก้อนจนเกิดผังผืดแข็งตกค้างและหย่อนคล้อยการร้อยไหมก็ไม่สามารถยกกระชับผิวบริเวณนั้นขึ้นได้ หากไม่แน่ใจว่าตนเองเหมาะกับการร้อยไหมหรือไม่ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจร้อยไหมทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน

ก่อนเข้ารับการร้อยไหม

    การยกกระชับผิวหน้าด้วยการร้อยไหมต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น คนไข้ควรศึกษาข้อมูลสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือและผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย โดยในขั้นตอนแรกคือการปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการรักษา  ความเสี่ยง  ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้  จำนวนและชนิดของไหมและผลลัพธ์ที่คนไข้คาดหวัง รวมถึงประเมินความเหมาะสมของคนไข้ว่าเหมาะกับการร้อยไหมผรือไม่ โดยซักประวัติสุขภาพและตรวจร่างกายดูว่ามีโรคหรือภาวะที่ไม่แนะนำให้เข้ารับการร้อยไหมหรือไม่ เช่น หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด กำลังมีภาวะติดเชื้อ หรือเคยเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้ง่าย

 

    หากไม่มีภาวะความเสี่ยงใด ๆ แพทย์จะสอบถามถึงผลลัพธ์ที่คนไข้คาดหวังจากการร้อยไหมและแจ้งให้ทราบถึงผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้ตามความเป็นจริง ข้อจำกัด ผลข้างเคียง และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างละเอียด ก่อนจะให้เวลาคนไข้กลับไปตัดสินใจ หากคนไข้ยอมรับข้อจำกัดดังกล่าวได้จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการรักษา

  นอกจากนี้ คนไข้จะได้รับการประเมินสภาพผิว เพื่อดูว่าควรใช้ไหมประเภทใดและจำนวนเท่าไรในการทำ รวมถึงประเภทของยาชาและปริมาณที่ต้องใช้ และมีการถ่ายภาพก่อนการรักษาเพื่อเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงหลังเข้ารับการรักษาให้เห็นด้วย    

 

ขั้นตอนการร้อยไหม

 

     หลังจากขั้นตอนปรึกษาประเมินโดยแพทย์ว่าควรร้อยไหมหรือไม่ ร้อยบริเวณไหนกี่จุดบ้าง ทาและฉีดยาชาแล้ว แพทย์จะสอดร้อยเส้นไหมเข้าไปในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่างระมัดระวังในทิศทางต่างๆ เส้นไหมจำนวนหลายเส้นที่สอดเข้าไปนี้จะนำมาซึ่งกลไกการยกกระชับผิว โดยกว่าจะเห็นผลลัพธ์ของการยกกระชับดังกล่าวอย่างชัดเจนใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์  โดยทั่วไปใบหน้าของผู้เข้ารับการร้อยไหมอาจบวมในตอนแรก และกลับมาดูเป็นปกติภายในประมาณ 2-3 วัน แต่บางรายที่ผิวหนังบางอาจปรากฏรอยพับหรือรอยดึงรั้งของผิวหนังเป็นเวลาหลายสัปดาห์ได้

     การร้อยไหมเป็นเทคนิคการยกกระชับผิวหน้าเพียงชั่วคราว โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี และอาจเริ่มกลับมาหย่อนคล้อยได้บ้างเล็กน้อยหลังจากผ่านพ้นไป 6 เดือน ทำให้อาจต้องเข้ารับการร้อยไหมอีกครั้งเพื่อยืดอายุผลลัพธ์ให้ยาวนานยิ่งขึ้นต่อไป

 

ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม

 

     ผลข้างเคียงจากการร้อยไหมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือความรู้สึกเจ็บระบมไม่สบายใบหน้า รวมไปถึงอาการบวมฟกช้ำจากการเคลื่อนตัวของไหมที่ร้อยเข้าไป  บางรายอาจมีรอยย่นพับของผิวหนังหลังการทำ ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหากเกิดการติดเชื้อซึ่งเกิดจากการทำแผลได้ไม่สะอาดหรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดหรือขั้นตอนการทำหัตถการที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมเพราะคนไข้อาจมีภาวะเชื้อดื้อยาและยากต่อการรักษา

 

     ไหมแต่ละแบบอาจมีผลข้างเคียงแตกต่างกันไป เช่น ไหมเส้นเรียบที่ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียวอาจทำให้มีอาการฟกช้ำได้บ้าง ส่วนไหมที่มีเงี่ยงอาจทิ้งรอยสอดไหมไว้ให้เห็นได้  ในช่วงแรกผิวหนังของคนไข้มักมีลักษณะผิดไปจากเดิมเล็กน้อย อาจทำให้รู้สึกหวั่นวิตกหรือเป็นกังวลได้ ดังนั้น ก่อนทำการร้อยไหมจึงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการใช้ไหมแต่ละชนิดอย่างละเอียด

 

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการร้อยไหม

 

     การร้อยไหมเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนประมาณ 15-20% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ไม่รุนแรงและแก้ไขได้ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังนี้

  • เส้นไหมอาจเกิดการแตกหักในระหว่างขั้นตอนการสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง ขณะดึงรัดเส้นไหม หรือจากการกดทับกระแทก

  • ใบหน้าไม่เท่ากัน โดยคนไข้อาจมีใบหน้าไม่สมมาตรกันอยุู่แล้วหรือเกิดความไม่เท่ากันของใบหน้าจากการร้อยไหมได้ แพทย์จึงอาจให้ผู้ป่วยส่องกระจกไปด้วยในระหว่างทำเพื่อสังเกตความผิดปกติดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น

  • การอักเสบของเนื้อเยื่อเนื่องจากไหมจะถูก

  • ร้อยลงไปที่บริเวณผิวหนังชั้นค่อนข้างลึก

  • อาจมีไหมส่วนเกินยื่นออกมาจากรูแผลหลังจากทำหัตถการ แม้แพทย์จะตัดปลายไหมส่วนเกินออกหลังจากสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ผิวหนังก็ตาม เนื่องจากภาวะบวมหลังทำ หากพบไหมยื่นออกมาให้รีบกลับมาพบแพทย์เพราะคนไข้อาจเสี่ยงติดเชื้อและการอักเสบของเนื้อเยื่อตามมาได้

  • การติดเชื้อเป็นภาวะแทรกซ้อนที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพราะไหมจะถูกเก็บอย่างถูกวิธีและแพทย์จะใช้กระบวนการฆ่าเชื้อก่อนทำหัตถการเสมอ เพื่อความปลอดภัย

 

ส่วนภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังนี้

  • เส้นประสาทใบหน้าเสียหาย ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาตและหลอดเลือดได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้เข็มปลายแหลมในการร้อยไหม

  • อาการปวดเรื้อรัง

  • สัมผัสได้ถึงไหมที่ใบหน้า มักเกิดขึ้นในคนไข้ผิวบางที่ผ่านการร้อยไหมชนิดมีเงี่ยง และหายไปได้เองหลังเวลาผ่านไปหลายวัน

  • มีเลือดออกซึมเป็นเวลาหลายวันจากการที่เข็มไปถูกเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ฉีกขาด

  • ภาวะภูมิไวเกิน เกิดจากภาวะที่ร่างกายเกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อไหมที่ร้อยเข้าไปมากเกินไปและก่อให้เกิดอาการแพ้มากกว่าปกติ

diora clinic
ไหมเงี่ยงขนาดใหญ่

จองคิว / ปรึกษา / สอบถาม

Click Here
ปรึกษาฟรี
diora clinic
ไหมเกลียวขนาดเล็ก

สารบัญ ฉีดไขมันหน้า

  • การฉีดไขมันหน้าเหมาะกับใครบ้าง
  • ฉีดไขมันหน้าอยู่ได้นานไหม
  • ฉีดไขมันหน้าพังเพราะอะไร
  • ฉีดไขมันหน้ากี่วันหายบวม
  • ข้อเสียของการฉีดไขมันหน้า
  • ฉีดไขมันหน้าเจ็บไหม
  • ฉีดไขมันหน้าอันตรายหรือไม่ มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง
  • ฉีดไขมัน เติมไขมัน วางไขมัน  ต่างกันอย่างไร
  • ฉีดไขมันที่ไทยกับเกาหลีเหมือนกันหรือไม่
  • ทำไมไขมันจากการดูดไขมันทิ้งเพื่อลดสัดส่วนถึงนำมาฉีดไขมันหน้าไม่ได้
  • ฉีดไขมันหน้านำไขมันมาจากไหน
  • ฉีดไขมันหน้าแบบไหนดี

บริการของเรา

ฉีดไขมันหน้า
ฉีดไขมันที่หน้า
ฉีดไขมันหน้า

ติดต่อเราได้ที่

diora clinic
diora clinic
diora clinic

ทำการจอง

Diora clinic

517/6-7 รามคำแหง 57-59 หัวหมาก บางกะปิ , กรุงเทพมหานคร 10240

โทร. 0640421788 , 0970589090

Email : dioraclinic@gmail.com

ที่จอดรถ , รองเท้าสะอาดภายในคลินิก ,ทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกชั่วโมง

เปิดบริการ วันพุธ-วันจันทร์ : 13:00 – 21:00 (หยุดทุกวันอังคาร)