หลังจากทำหัตถการเป็นเรื่องปกติที่แพทย์จะสั่งยารักษาและเวชภัณฑ์ให้คนไข้กลับบ้าน และเป็นเรื่อง”ปกติ” ที่อาจเกิดอาการแพ้ขึ้นได้โดยที่เราไม่ทราบสาเหตุล่วงหน้า โดยเฉพาะคนไข้กลุ่มศัลยกรรมที่อาจเกิดอาการแพ้ได้ตั้งแต่ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ และพลาสเตอร์ปิดแผล หรือแม้แต่ไหมที่ร้อยเย็บที่ชั้นผิว แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่ามีอาการแพ้เหล่านี้ ???
เป็นสิ่งที่สังเกตเห็นได้ง่ายและพบบ่อยที่สุด มักจะเกิดร่วมกับอาการคันจากกลไกการแพ้และอักเสบของร่างกายเรา ลักษณะผื่นมีหลากหลายตั้งแต่ตกสะเก็ดไปจนถึงตุ่มน้ำพอง
แม้จะมีลักษณะแตกต่างกัน แต่แนวทางรักษาคล้ายกัน ภายหลังจากหยุดยาที่แพ้ และให้การรักษาอย่างถูกวิธี ไม่แคะแกะเกา รับประทาน/ทายาแก้แพ้ตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ผื่นจะค่อยๆจางลงและหายได้เองโดยแทบจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้เลย แต่หากเผลอไปแคะแกะเกาจนเป็นแผลตกสะเก็ดหรือติดเชื้อก็มีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย
นอกจากนั้น ยังต้องสังเกตอาการอย่างน้อย 4-8 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) เช่น แน่นหน้าอกหายใจหวีดติดขัดเนื่องจากหลอดลมตีบ เป็นต้น หากมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นให้รีบแจ้งแพทย์ทันที
ส่วนใหญ่แล้ว หลังจากหยุดยาหรือสาเหตุที่ทำให้มีอาการแพ้และรักษาถูกต้อง อาการมักจะหายไปอย่างรวดเร็ว บางรายอาจเหลือรอยผื่นบางๆ และค่อยๆรักษาจนหายได้ในระยะเวลาไม่เกิน 1-2 สัปดาห์
หากไม่มีอาการแล้ว ไม่แนะนำให้ใช้ยาต่อเนื่อง เพราะยาบางตัวเป็นสเตียรอยด์ทำให้กดภูมิคุ้มกันได้ และยาแก้แพ้บางตัวก็ทำให้ง่วงซึมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
517/6-7 รามคำแหง 57-59 หัวหมาก บางกะปิ , กรุงเทพมหานคร 10240
โทร. 0640421788 , 0970589090
Email : dioraclinic@gmail.com
ที่จอดรถ , รองเท้าสะอาดภายในคลินิก ,ทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกชั่วโมง
เปิดบริการ วันพุธ-วันจันทร์ : 13:00 – 21:00 (หยุดทุกวันอังคาร)