hematoma ภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนังคืออะไร ???
อาการห้อเลือดหรือภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง ต้องเจาะไหม ??? อาการห้อเลือดหรือภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง รักษาอย่างไร??
ภาวะเลือดคั่ง – อาการช้ำใต้ผิวหนัง – ห้อเลือด (Hematoma) ทั้งหมดนี้คือ เลือดที่ไหลออกมาภายนอกหลอดเลือดมากองรวมกัน พบได้บ่อยเวลาเกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกแล้วหน้าผากโนบวมปูดเป็นก้อนหรือฟกช้ำดำเขียวตามเนื้อตามตัว
(เลือดคั่ง ไม่ใช่เลือดคลั่งนะคะ)
ภาวะเลือดคั่งมีหลายประเภทแบ่งตามบริเวณที่เกิด แต่ในบทความนี้จะขอเน้นเฉพาะ Subcutaneous Hematoma (อาการเลือดคั่งใต้ผิวหนัง) ซึ่งพบได้บ่อยหลังเกิดอุบัติเหตุและหลังจากการทำศัลยกรรม เช่น เสริมจมูก ทำตา 2 ชั้น ผ่าตัดดึงหน้า V line ฉีดไขมันหน้า หรือแม้แต่การร้อยไหม Filler Botox ต่างก็เป็นหัตถการที่ล้วนมีโอกาสเกิด Subcutaneous Hematoma ได้ทั้งสิ้น
เลือดคั่งใต้ผิวหนังมีลักษณะอย่างไร ??
ตัว hematoma อาจเป็นแค่จุดเล็กๆ หรือใหญ่จนบวมเป่งก็ได้ เมื่อเวลาผ่านไปจะค่อยๆหายไปเองตามธรรมชาติ แต่เลือดที่ไหลออกมาอยู่ในบริเวณที่ไม่ควรอยู่นั้นสามารถรบกวนและเกิดการอักเสบปวดบวมของเนื้อเยื่อรอบๆ จนแผลหายช้าและติดเชื้อได้หากไม่ดูแลให้ถูกวิธี
ภาวะเลือดคั่งจะหายไปเมื่อใด ???
– หลังจากมีอาการ 2-3 วัน จากเลือดคั่งสีแดงจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ
– หลังจากมีอาการ 5-10 วัน สีจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียวจากการสลายของฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ในเม็ดเลือดแดง
– หลังจากมีอาการ 10-14 วัน เศษซากของเม็ดเลือดจากถูกเก็บกวาดโดยกระบวนการฟื้นฟูตนเองของร่างกาย
ดังนั้น โดยเฉลี่ยแล้ว Subcutaneous Hematoma จะหายไปในช่วงประมาณ 14 วัน แต่ในบางรายที่มีเลือดซึมกะปริบกะปรอยอยู่ภายในทำให้อาการคั่งนานกว่านี้ได้จนถึง 3 สัปดาห์หรือ 3 เดือนก็เป็นได้
เลือดคั่งใต้ผิวหนัง รักษาอย่างไร ??
ในช่วงแรกควรปฏิบัติตามหลัก RICE โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 วันแรก สำคัญมาก !!!
1. Rest พักผ่อน ไม่ลุกเดินขึ้นๆลงๆ ไปไหนมาไหนเกินจำเป็น
2. Ice ประคบเย็นภายใน 48 ชั่วโมงแรกให้หลอดเลือดหดตัว เลือดออกน้อยลง
3. Compress กดเพื่อไม่ให้เลือดไหลออกจากแผลนั้นคล้ายกับการประคบเย็น คือ กดลงน้ำหนักพอสมควร ไม่กดแรงนานเกินไปจนเนื้อเยื่อขาดเลือดไปเลี้ยง
4. Elevate ยกบริเวณที่มี เลือดคั่งให้สูงกว่าระดับหัวใจ (คนไข้หลังทำศัลยกรรมใหม่ๆ บริเวณใบหน้าจึงควรประคบเย็นและนอนหัวสูง)
!!! แต่ !!! บางหัตถการในบางบริเวณที่ต้องการการดูแลอย่างละเอียดอ่อน แพทย์อาจไม่แนะนำให้กดประคบเย็นเพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อภาวะแผลติดเชื้อหรือแผลปริฉีกขาดได้
เลือดคั่งใต้ผิวหนัง ต้องเจาะมั้ย??ภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง ควรเจาะเมื่อไหร่??
ตามกลไกฟื้นตัวของร่างกายช่วงที่บวมที่สุด 3-4 วันแรกปากแผลยังปิดไม่สนิท อาจมีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลซึมขับออกมาทางปากแผลได้บ้างถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติให้ทำความสะอาดแผลต่อเนื่องทุกวัน ปากแผลจะปิดสนิทได้เอง
ยกเว้นแต่ในกรณีที่หลอดเลือดขนาดใหญ่ฉีกขาดมีเลือดไหลออกมากจนผิดปกติหรือเลือดไหลซึมต่อเนื่องเกินกว่า 7 วัน แบบนี้ผิดปกติ ควรรีบแจ้งแพทย์ทันที !!!
บางกรณีที่มีอาการบวมคั่งมากๆ แพทย์อาจพิจารณาเจาะดูดระบายเลือดหรือน้ำเหลืองออกเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ แต่จะพิจารณาเฉพาะในบางรายที่บวมมากผิดปกติหรือบวมจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น เนื่องจากรูแผลที่เจาะเข้าไปก็อาจเป็นช่องทางให้เชื้อแบคทีเรียลามเข้าไปได้เช่นกัน
หากเจาะระบายออกแล้วพบเป็นน้ำสีเหลืองใสไม่ใช่เลือดจะเรียกว่า Seroma (น้ำเหลืองคั่ง) ซึ่งการเฝ้าระวังและดูแลรักษาไม่แตกต่างจากภาวะเลือดคั่ง
ในกรณีที่ Hematoma เกิดขึ้นมานานหลายวันเลือดเริ่มแข็งตัวแล้วไม่สามารถเจาะระบายได้ การประคบอุ่นก็เป็นการรักษาอีกทางเลือกที่ดี อุณหภูมิที่เหมาะสมในการประคบอุ่นไม่ควรเกิน 45 องศาเซลเซียส ประคบครั้งละ 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง